SWOT
วิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในองค์กร (2S4M)
วิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในองค์กร (2S4M)
1) ด้านโครงสร้างและนโยบาย (Structure
: S1 )
|
|
จุดแข็ง
( + ) (STRENGTHS)
|
จุดอ่อน ( - ) (WEAKNESSES)
|
1.
โรงเรียนมีโครงสร้างการบริหารจัดการศึกษา และมีคู่มือในการปฏิบัติตามขอบข่ายงานอย่างชัดเจน ส่งผลให้ระบบการบริหารมีความคล่องตัว
2.
โรงเรียนมีแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยจัดทำเป็นแผนกลยุทธ์
กำหนดวิสัยทัศน์
พันธกิจ เป้าประสงค์ และตัวชี้วัดความสำเร็จ ในการนำนโยบายสู่การปฏิบัติอย่างชัดเจน ครอบคลุมภารกิจทุกด้าน ส่งผลให้การดำเนินงานของโรงเรียนเป็นไปอย่างมีประสิทธิผล
3.
โรงเรียนมีมาตรฐานของสถานศึกษาเพื่อใช้กำหนดคุณภาพการศึกษา
และมีระบบการประเมินภายใน
ส่งผลให้การศึกษามีคุณภาพและได้มาตรฐาน
4.
บุคลากรและชุมชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายของโรงเรียน
ส่งผลให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความสมานฉันท์และราบรื่น
|
1. การแบ่งงานตามโครงสร้างการบริหารของโรงเรียนที่มีข้อจำกัดในด้านบุคลากรเนื่องจากบุคลากรมรน้อย
ทำให้เกิดสภาวะ“งานล้นคน” ตลอดจนต้องรับผิดชอบในงานที่ไม่ตรงกับความรู้ความสามารถ
ส่งผลให้การดำเนินงานเกิดความล่าช้า
|
2) ด้านผลผลิตและบริการ (Products
and Service : S2 )
|
|
จุดแข็ง
( + ) (STRENGTHS)
|
จุดอ่อน ( - ) (WEAKNESSES)
|
1. โรงเรียนสามารถให้บริการด้านการศึกษาได้อย่างทั่วถึง
โดยเปิดบริการทั้งในระดับปฐมวัย และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ส่งผลให้ชุมชนในเขตบริการได้รับสิทธิและโอกาสทางการศึกษา
2. โรงเรียนมีอาคารสถานที่
เอื้อต่อการพัฒนาระบบการจัดการเรียนรู้ และส่งเสริมผลผลิตให้มีคุณภาพ
3.
จากผลสรุปการประเมินภายนอกของ
สมศ. รอบที่ 3 โรงเรียนผ่านการประเมิน
|
1.
ข้อจำกัดในทั้งในด้านจำนวนและความสามารถของบุคลากรในการใช้สื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัย ส่งผลให้ผลผลิตมีคุณภาพไม่ครบถ้วนสมบูรณ์
2.
จากผลสรุปการประเมินภายนอกของ
สมศ.
ปี พ.ศ. 2557 โรงเรียนมีจุดปรับปรุงแก้ไขตามมาตรฐานด้านผู้เรียน
คือมาตรฐานที่ 5
|
3) ด้านบุคลากร (Man
: M1 )
|
|
จุดแข็ง
( + ) (STRENGTHS)
|
จุดอ่อน ( - ) (WEAKNESSES)
|
1. ครูทุกคนมีการศึกษาอยู่ในระดับปริญญา
และความมุ่งมั่นในการพัฒนาในด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้
2. ผู้บริหารมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาตนโดยเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท
และมุ่งมั่นพัฒนาคนโดยสนับสนุนให้ครูเข้ารับการประเมินวิทยฐานะจนได้เลื่อนวิทยฐานะเป็นครูชำนาญการพิเศษ
3. ครูทุกคนมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาวิชาชีพโดยเสนอตัวเข้ารับการประเมินวิทยฐานะเพื่อเลื่อนให้เป็นครูชำนาญการพิเศษ
ทำให้เกิดการพัฒนาในระดับชั้นเรียน ส่งผลให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เต็มตามศักยภาพ
|
1. เนื่องจากเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก จำนวนครูไม่ครบชั้น และจำนวนครูก็ยังมีไม่สาขาวิชา
ส่งผลให้ครูขาดความเชื่อมั่นในการสอน และต้องสอนไม่ตรงกลุ่มสาระวิชาทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนบางกลุ่มสาระวิชายังไม่บรรลุเป้าหมาย
2. เนื่องจากครูต้องรับผิดชอบภาระงานอื่นนอกเหนือจากงานสอนมากเกินไป
ส่งผลให้ประสิทธิภาพงานด้านการสอนลดลง
ขาดความต่อเนื่องเชื่อมโยงทั้งในด้านความรู้และทักษะในด้านงานสอน เช่น การสอนแบบโครงงาน การวิจัยในชั้นเรียน
ซึ่งต้องอาศัยเวลาอย่างมากในการดำเนินกิจกรรม
|
4) ด้านประสิทธิภาพทางการเงิน (Money
: M2 )
|
|
จุดแข็ง
( + ) (STRENGTHS)
|
จุดอ่อน ( - ) (WEAKNESSES)
|
1.
โรงเรียนมีการจัดทำแผนการใช้จ่ายงบประมาณโดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วม
ทำให้มีความโปร่งใสการใช้จ่ายตรงกับความต้องการ
ส่งผลให้การดำเนินงาน/กิจกรรม/โครงการของแต่กลุ่มงาน บรรลุวัตถุประสงค์
2.
โรงเรียนมีอิสระในการบริหารการเงิน
ทำให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ
สามารถแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาได้ตรงกับความต้องการ
3.
โรงเรียนมีการระดมทุน
โดยจัดตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาโรงเรียนวัดหนองบัว ส่งผลให้โรงเรียนได้พัฒนาโรงเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
|
1.
โรงเรียนยังไม่มีแผนระดมทรัพยากรจากชุมชนอย่างจริงจังจึงทำให้ได้รับการสนับสนุนไม่มาก
2.
โรงเรียนเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก จึงได้รับการจัดสรรงบประมาณในจำนวนที่น้อยมาก
|
5) ด้านวัสดุทรัพยากร (Material
: M3 )
|
|
จุดแข็ง
( + ) (STRENGTHS)
|
จุดอ่อน ( - ) (WEAKNESSES)
|
1.
โรงเรียนมีอาคารเรียนที่เพียงพอในการจัดทำเป็นห้องเรียนและห้องกิจกรรมอื่น
ๆ
|
1.
โรงเรียนได้รับการจัดสรรงบประมาณในจำนวนน้อย
ทำให้เกิดอุปสรรคทั้งในด้านการบำรุงรักษาสื่อเทคโนโลยี
และการพัฒนาห้องกิจกรรมต่าง ๆ ให้ได้มาตรฐาน
|
6) ด้านการบริหารจัดการ (Management
: M4 )
|
|
จุดแข็ง
( + )(STRENGTHS)
|
จุดอ่อน ( - ) (WEAKNESSES)
|
1. โรงเรียนจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยจัดทำเป็นแผนกลยุทธ์เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารทั้งแผนระยะปานกลาง
ระยะสั้น และแผนปฏิบัติงานรายปี
2. โรงเรียนมีการติดต่อประสานงานกับกับชุมชนอย่างสม่ำเสมอ
ทำให้ได้รับการสนับสนุนทั้งอุปกรณ์การศึกษาตลอดจนอาคารสถานที่ซึ่งถือเป็นประโยชน์อย่างสูงต่อการพัฒนาด้านการศึกษาของโรงเรียน
3. โรงเรียนจัดให้มีการประเมินตนเอง
และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานทุกปี
|
1. การดำเนินงาน/กิจกรรม/โครงการของโรงเรียนบุคลากรต้องรับผิดชอบในภาระงานมาก และบางครั้งต้องรับผิดชอบงานที่ไม่ตรงกับความรู้ความสามารถ ส่งผลให้การดำเนินงานในภาพรวมเกิดประสิทธิผลน้อย
|
วิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกองค์กร
(STEP)
1)
ด้านสังคมและวัฒนธรรม (Socio-cutural
Factor : S)
|
|
โอกาส ( + ) (OPPORTUNITES)
|
อุปสรรค ( - ) (THREATS)
|
1. ชุมชนมีที่ตั้งอยู่ในบริเวณของที่ลุ่มส่งผลให้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะในการพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้และปลุกจิตสำนึกให้ผู้เรียนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
2.
ชุมชนให้ความร่วมมือด้วยดีทั้งในด้านแรงงานและกำลังทรัพย์
จึงส่งผลให้โรงเรียนได้รับการพัฒนาด้านอาคารสถานที่และสิ่งแวดล้อม
3.
ชุมชนให้การสนับสนุนโครงการอาหารกลางวันส่งผลให้นักเรียนได้รับประทานอาหารกลางวันทุกวันและทุกคน
4.
ชุมชนส่วนใหญ่ยังให้ความเคารพและเชื่อถือการตัดสินใจของครูและผู้นำในหมู่บ้าน
ส่งผลให้การบริหารจัดการศึกษาเป็นไปด้วยความราบรื่น
|
1. ภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชนมีจำนวนน้อยทั้งภูมิปัญญาฯประเภทองค์ความรู้ของกลุ่มบุคคลท้องถิ่น
และภูมิปัญญาฯประเภทงานศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน
2.
ผู้ปกครองส่วนใหญ่ทอดทิ้งให้บุตรหลานให้
ปู่ ย่า ตา และ ยายเป็นผู้ดูแล ทำให้เกิดอุปสรรคในการเชื่อมโยงการเรียนรู้ของนักเรียนกับโรงเรียน
3.
กระแสบริโภคนิยมในยุคโลกาภิวัฒน์
ส่งผลให้เยาวชนเกิดการเลียนแบบวัฒนธรรมต่างชาติที่ไม่เหมาะสม เช่น การแต่งกาย
ทรงผม
|
2)
ด้านเทคโนโลยี
(Technological Factor : T)
|
|
โอกาส
( + ) (OPPORTUNITES)
|
อุปสรรค
( - ) (THREATS)
|
1. ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีส่งผลให้ชุมชนที่ยังทำอาชีพทางการเกษตรสามารถสร้างผลิตผลได้ปริมาณเพิ่มขึ้น
2.
ทุกครัวเรือนมีเครื่องอำนวยความสะดวกทั้งในด้านการอุปโภคและบริโภคที่ทันสมัย
ส่งผลให้ชุมชนได้รับความสุขสบายและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
3.
ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีการสื่อสารส่งผลให้ชุมชนมีระดับการรับรู้ข้อมูลข่าวสารต่างๆเพิ่มขึ้น ทำให้เข้าใจในบทบาทหน้าที่ การเมืองการปกครอง
และสิทธิของตนได้ในระดับดี
4.
ชุมชนมีปราชญ์ชาวบ้านที่หลากหลายทำให้นักเรียนมีความรักและภูมิใจในท้องถิ่น
|
1.
ชุมชนขาดความตระหนักถึงโทษภัยของเทคโนโลยีสมัยใหม่
เช่น การปล่อยปละละเลยให้เด็กเปิดเครื่องเล่น ดีวีดี ซีวีดี
ดูในสิ่งที่ไม่เหมาะสมโดยขาดคำแนะนำ ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมเสี่ยงไปในทางที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน
2.
หน่วยงานที่รับผิดชอบในการควบคุมสื่อยังปล่อยให้มีสื่อลามกแฝงมาทางอินเตอร์เน็ต
ตลอดจนโฆษณาชวนเชื่อแฝงมาทางวิทยุและโทรทัศน์
ส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมที่ดีงามของเยาวชนไทย
|
3) ด้านเศรษฐกิจ (Economic Factor : E)
|
|
โอกาส ( + ) (OPPORTUNITES)
|
อุปสรรค
( - ) (THREATS)
|
1.
ผู้ปกครองส่วนมากทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม
ส่งผลให้มีรายได้ดี
|
1. การประกอบอาชีพของผู้ปกครอง ทำให้พ่อแม่ไม่มีเวลาดูแลลูก
ส่งผลให้เด็กเกิดความหว้าเหว่และมีนิสัยก้าวร้าว
2. การประกอบอาชีพของชุมชน
ถือเป็นอาชีพที่มีความมั่นคงน้อย และมีแนวโน้มที่จะมีปัญหามากขึ้น
|
4) ด้านการเมืองและกฎหมาย (Political and
legal Factor : P)
|
|
โอกาส ( + )(OPPORTUNITES)
|
อุปสรรค
( - )(THREATS)
|
1.
พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545
เปิดโอกาสให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
2.
นโยบายกระจายอำนาจสู่เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาทำให้โรงเรียนมีความคล่องตัวในการทำงาน
3.
โรงเรียนได้รับการสนับสนุนงบประมาณอาหารกลางวันแบบร้อยเปอร์เซ็นและนมจากองค์การบริหารส่วนตำบลอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้นักเรียนมีน้ำหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์มาตรฐานของเด็กไทย
4.
นโยบายการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อให้มีและเลื่อนวิทยฐานะ
ส่งผลให้ครูมีระดับการพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพิ่มมากขึ้น
และเกิดผลดีต่อการเรียนรู้ของนักเรียน
|
1.
นโยบายการปรับลดอัตรากำลังของภาครัฐทำให้โรงเรียนมีบุคลากรไม่พอเพียง
2.
การกำหนดมาตรฐานทางการศึกษาที่หลากหลาย
ทั้งในระดับชาติ ระดับกระทรวง ระดับกรม และระดับเขตพื้นที่การศึกษา
ตลอดจนมาตรฐานของโรงเรียนเอง
ย่อมเป็นอุปสรรคในทางปฏิบัติโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียน
3.
ความมุ่งหมายและหลักการจัดการศึกษาตาม พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ไม่สอดคล้องกับค่านิยม ความเชื่อและสิ่งที่คาดหวังของผู้ปกครองที่ต้องการให้ลูกเรียนจบแล้วได้ทำงานสบาย
ๆ และรับค่าจ้างสูง ๆ
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น